มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่
ต่อครอบครัว ต่อบ้านเมือง ต่อชาวโลก และต่อตนเอง"
จากที่อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม และคณะรวม 6 คน
ได้เดินทางไปยังบังคลาเทศเมื่อปลายปี2555 ที่ผ่านมา
เพื่อนำเงินทำบุญของพวกเราไปให้ถึงมือชาวพุทธในบังคลาเทศในการทอดกฐิน
ดังภาพวิดีโอที่ท่านคงได้เห็นกันแล้ว
ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นภาพที่สะเทือนใจพวกเราจริงๆ
ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นภาพที่สะเทือนใจพวกเราจริงๆ
หลายคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จากภาพเหตุการณ์ที่ได้เห็นในความยากจน
ในความจริงใจ แต่ในความทุกข์ก็มีสุข ปีติจากการที่พวกเรารวมกำลังกัน
ได้เงินบริจาคประมาณ 800,000 บาท ทำให้การก่อสร้างดำเนินไปจนขณะนี้
วิหารสวดมนต์ได้ก่อสร้างจนเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้วตามวัตถุประสงค์
ภาพวิหารที่กำลังก่อสร้าง
ซึ่งเมื่อเราไปเห็นชุมชนชาวพุทธที่อยู่กัน เราเริ่มตระหนักว่าการก่อสร้างศาสนสถานนั้น จะไม่อาจทำให้ศาสนายั่งยืนต่อไปได้หากปราศจาก ชาวบ้านที่เข้มแข็งและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันรวมถึงพระสงฆ์ สามเณรที่มีความรู้ความสามารถในการประกาศเผยแผ่ธรรมและการปฏิบัติธรรมอย่างเอาจริงเอาจัง
ดังนั้น เราจึงวางโครงการฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ออกเป็น ระยะต่างๆดังนี้ คือ
1. การสร้างศาสนสถาน
ซึ่งปี 56 เราจะดำเนินการก่อสร้างวิหารจนเสร็จสมบูรณ์
ในปี 57 เราจะสร้างอาคาร 2 ชั้น อันจะเป็นที่พักสงฆ์ สามเณร และโรงเรียนพุทธศาสนาซึ่งเด็กๆชาวพุทธ รวมถึงผู้ใหญ่จะมาเรียนรู้ศึกษาพระธรรม ทั้งเป็นที่ให้ภิกษุสงฆ์ สามเณรใช้เป็นที่ศึกษาเรียนรู้เช่นกัน
ในปี 58 เราจะสร้างอาคาร 3 ชั้นในที่ดินของวัดซึ่งอยู่ตรงข้าม เพื่อทำเป็นห้องเช่าในส่วนชั้นล่าง (ให้วัดมีรายได้ตลอดไป) ส่วนชั้น 2 จะเป็น Training Center เพื่อใช้ฝึกอาชีพผู้คนยากจน ซึ่งในโครงการที่เราเสนอไว้เมื่อปีที่ผ่านมาคือ การให้จักรเย็บผ้าเพื่อให้ผู้หญิงที่เป็นแม่บ้านสามารถมีรายได้และไม่ต้องออกจากบ้านไปทำงานหาเงิน ดังนั้นจะยังคงดูแลงานบ้าน เลี้ยงลูก หรือดูแลญาติผู้ใหญ่ในบ้านได้ ส่วนชั้น 3 เพื่อใช้ประโยชน์ตามสมควร
2. การสร้างรายได้ให้วัด
2.1 เราเสนอให้สร้างโรงสีข้าวชุมชน โดยเราจะลงทุนสร้างเครื่องเกี่ยวข้าวเพื่อให้ชาวบ้านเช่าในราคาพิเศษและวัดจะได้รายได้ต่อไป ในส่วนโรงสียังอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล
2.2 อีกโครงการหนึ่งคือสร้างกุฏิปฏิบัติธรรมในที่ดินส่วนรกร้างของวัด สร้างกุฏิไม้ทรงไทย 2 หลังพร้อมห้องน้ำรวมเพื่อให้พระใช้ภาวนา
2.3 การให้เช่าห้องแถว กล่าวถึงไปแล้วในหัวข้อที่ผ่านมา
2.4 ค่าดำเนินการจัดส่งออกเสื้อผ้าให้องค์กร Mak! Thailand
3. การพัฒนาพระภิกษุ สามเณร
เราได้เสนอให้ทุนในการเข้ามาศึกษาพระธรรมคำสอนในประเทศไทย โดยจะให้ทุนเดินทางเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน โดยเมื่อถึงประเทศไทยวัดนาคปรกจะรับดูแลต่อไป และเมื่อพระเณรสามารถพูดภาษาไทยได้แล้ว เราจะนิมนต์ให้ท่านเดินทาง เข้าฝึกกับพระป่า พุทธวจน และเข้าคอร์สปฏิบัติในโครงการ มัคคานุคา เพื่อให้พระสงฆ์ สามเณร ได้เห็นมุมมองการเผยแผ่ธรรมในทุกด้านและการปฏิบัติธรรมเพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป โดยพระเณรที่เข้ามา 1 รูปจะอยู่ในเมืองไทย 3 ปี เราจะส่งให้เป็นเวลา 5 ปีแรกแล้วประเมินผล
เนื่องจากความเป็นอยู่ของชาวบ้านอยู่ในระดับยากจน เราจึงเห็นว่าศาสนาจะเข้มแข็งชาวพุทธต้องเข้มแข็ง จึงเริ่มคิดให้เขามีความผูกพันกับวัดและมีรายได้จากโครงการที่กล่าวไปแล้วโดยให้วัดและกรรมการวัดเป็นผู้ดำเนินการคือ เริ่มจากการเย็บผ้า โดยจัดหาผู้เชี่ยวชาญที่บริเวณนั้น มาสอนการเย็บผ้า เมื่อเย็บเป็นทางวัดจะจัดส่งจักรเย็บผ้าไปให้ที่บ้าน โดยเย็บตามแบบที่เรากำหนด เสื้อทั้งหมดจะถูกส่งมาประเทศไทยภายใต้การนำเข้าของ Mak! เพื่อมาขายในสถานปฏิบัติธรรมต่างๆ โดยในระยะแรกราคาขายทั้งหมดจะถูกส่งคืนกลับไปให้ชาวบ้านทั้งหมด โดยวัดได้ค่าดำเนินการรวบรวมจัดส่ง 10%
อีกโครงการคือในกลุ่มคนยากจน มีจนยิ่งกว่าจนเข้าไปอีกคือไม่มีเงินเลี้ยงชีพเลย ความเป็นอยู่แร้นแค้นสุดๆ เราจึงรับอุปถัมภ์ไว้ 4 คนในปีที่ผ่านมา โดยให้คนละ 1,500 ธากา (600 บาท) ต่อเดือนเป็นเวลา 1 ปี ให้มารับเงินที่วัดเพื่อพอประทังให้มีชีวิตรอดต่อไป
โครงการช่วยเหลือชุมชนเพื่อความสามัคคีและพัฒนาความเป็นอยู่และความรู้ โครงการที่ทำผ่านมาเมื่อปีที่แล้วคือการเข้าไปช่วยโรงเรียนประถม เราได้มอบเครื่องคอมพิวเตอร์ ทีวีและเครื่องเล่นวิดีโอ เครื่องขยายเสียง เครื่องกีฬา ฟุตบอล คริกเก็ต (กีฬายอดนิยมของที่นั่น) ปิงปอง พัดลมเพดานทุกห้องเรียน ห้องละ 3 เครื่อง เครื่องดนตรี และรายการสุดท้ายคือสีทาโรงเรียนแต่มีข้อแม้ว่าผู้ปกครองและนักเรียนทุกคนจะต้องช่วยกัน วัตถุประสงค์คือให้เกิดความรัก ความสามัคคีในหมู่กลุ่มโดยไม่แยกศาสนา ต้องการเห็นการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพกันผ่านการทาสีโรงเรียนด้วยกัน
วันนี้ทุกอย่างบรรลุวัตถุประสงค์ไปหมดแล้ว มีโรงเรียนในละแวกนั้นขอความช่วยเหลือกันมาอีกเป็นจำนวนมากเพราะเขาบอกว่า ตั้งแต่ตั้งโรงเรียนมาหลายสิบปี โรงเรียนไม่เคยได้อะไรจากรัฐเลย ทุกคนมาพูดว่าจะให้นั่นให้นี่แล้วพอกลับไปก็เงียบหายไป แต่ของเราไม่เคยมาพูดว่าจะให้อะไร แต่เมื่อเขาขอมากลับได้ทุกอย่าง
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทั้งหมดนี้เราทำภายใต้องค์กร ที่พวกเราตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยพุทธศาสนา ช่วยเหลืองานเผยแผ่
พุทธศาสนา ช่วยเหลือชาวพุทธและช่วยเหลือชาวโลกโดยไม่จำกัดศาสนาด้วย สร้างความสมานฉันท์ในระหว่างศาสนา